Home         Book Reviews         Business Trips        Technical Visits        About Me
Wut Sookcharoen
Book Reviews by  รศ. ดร. วุฒิ สุขเจริญ
 
วุฒิ สุขเจริญ The CEO as Chief Resilience Officer
Author:  Ida Kristensen and Linda Liu with Eric Sherman (McKinsey & Company)
My Rating: วุฒิ สุขเจริญ
 
 
   เนื้อหาเกี่ยวกับ Resilience คราวนี้ไม่ได้มาจากหนังสือ แต่มาจากเก็บไซต์ของ McKinsey & Company ใครสนใจต้นฉบับก็ไปตาม Link ด้านล่าง แต่ใครที่อยากไปทางลัดก็อ่านที่ผมสรุปให้ก็ได้ครับ
    ในเนื้อหาผมจะใช้คำว่า "ความยืดหยุ่น" แทนคำว่า "Resilience" เพื่อความสะดวกในการพิมพ์นะครับ (ถึงแม้ว่าความหมายมันจะไปตรงซ่ะทีเดียว) ใครอยากได้ความหมายที่ตรง ๆ ก็เข้าไปอ่านที่ผมรีวิวหนังสือชื่อ The Resiliency Advantage: Master Change, Thrive under Pressure, and Bounce Back From Setbacks
Introduction
    จากวิจัยของ McKinsey พบว่าผู้นำและองค์กรจำนวนมากไม่ได้ใช้เวลาเพียงพอในการสร้างความยืดหยุ่น (Resilence) ผู้นำมากถึง 84 เปอร์เซ็นต์รายงานว่ารู้สึกไม่พร้อมต่อ disruptions ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และ 60 เปอร์เซ็นต์ของคณะกรรมการกล่าวว่าบริษัทยังไม่พร้อมต่อเหตุการณ์สำคัญ (next major event) ครั้งต่อไป
    McKinsey ระบุว่า ความยืดหยุ่นมี 4 ประเภทหลัก คือ

1) Financial resilience คือ การสร้างให้องค์กรมีความยืดหยุ่นด้านการเงินทุน และสภาพคล่องเพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ องค์กรที่มีผลการดำเนินงานสูงสร้างทางเลือก (optionality)


2) Operational resilience คือ การสร้างให้บริษัทสามารถเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและในวงกว้างตามความจำเป็น


3) Organizational resilience คือ การสร้างให้องค์กรกระจายอำนาจแก่บุคคลและทีมงานในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและเอาชนะและฟื้นตัวจากความล้มเหลว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกำหนดทิศทาง (ดาวเหนือ: North Star) เพื่อให้รับรู้ถึงทิศทางที่ชัดเจนแก่ผู้คนไม่ว่าสิ่งรอบตัวจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ยังต้องการการพัฒนาความปลอดภัยทางจิตใจและวัฒนธรรมการเรียนรู้


4) External resilience คือ การสร้างให้องค์กรสามารถดึงการสนับสนุนจากภายนอกได้ รักษาและเสริมสร้างความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก รวมถึงลูกค้า หน่วยงานกำกับดูแล และนักลงทุน สิ่งนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีความปั่นปวน
       CEO สามารถดำเนินการ 5 ประการเพื่อให้องค์กรแข็งแกร่งขึ้นและมีความไว
ต่อแรงกระแทกน้อยลง ดังนี้
   1) Embed resilience in the company’s vision คือการฝังความยืดหยุ่นในวิสัยทัศน์ของบริษัท
โดยเชื่อมโยงระหว่างกลยุทธ์ขององค์กรกับระดับของความยืดหยุ่น

2) Build full-body resilience คือ สร้างความยืดหยุ่นทั้งร่างกาย โดยให้ความสนใจกับทุกมิติของความยืดหยุ่นในองค์กร

3) Force decisions with senior leaders when resilience is on the line คือ การบังคับการตัดสินใจของผู้นำอาวุโสเมื่อความยืดหยุ่นเป็นประเด็นที่วิกฤตหรือภาวะเสี่ยง
โดยย้ำความสำคัญของความยืดหยุ่นในทุกการตัดสินใจประจำวันและการริเริ่มเชิงกลยุทธ์

4) Cultivate a gritty team and invest in individual resilience คือ การปลูกฝังทีมที่แข็งแกร่งและลงทุนในความยืดหยุ่นส่วนบุคคล
โดยการจ้างและพัฒนาผู้คนที่แสดงลักษณะและพฤติกรรมที่ปรับตัวได้ เปิดรับความท้าทาย และมุ่งมั่นต่อคุณลักษณะและการปฏิบัติเหล่านี้ และทำตัวเป็นแบบอย่าง

5) Create deeper relationships with a diverse set of external stakeholders คือ สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกที่หลากหลาย
 
 
Embed resilience within the company’s vision
      งานวิจัยของ McKinsey แสดงให้เห็นว่า เมื่อทีมผู้บริหารระดับสูงทำงานสอดประสานกัน โดยยึดตามวิสัยทัศน์ร่วมกัน บริษัทจะมีแนวโน้มเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับบริษัทคู่แข่งที่จะมีผลการดำเนินงานสูงกว่าค่าเฉลี่ย
       CEO มีความรับผิดชอบในการกำหนดวิสัยทัศน์และสร้าง “ดาวเหนือ” (North Star) ที่สามารถกระตุ้นและนำทางทีมได้ จากงานวิจัยของ World Economic Forum และ McKinsey พบว่า มากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทสื่อสารวิสัยทัศน์และค่านิยมของพวกเขาอย่างไม่สม่ำเสมอในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน


Balance time horizons and adopt a through-cycle mindset
Alain Bejjani อดีต CEO ของ Majid Al Futtaim ได้แบ่งปันกับ McKinsey ถึงความสำคัญของการมี “ตาหนึ่งอยู่บนกล้องจุลทรรศน์ และอีกตาหนึ่งอยู่บนกล้องโทรทรรศน์”
“one eye in the microscope and the other in the telescope.”
ซึ่งหมายถึงการที่ต้องมองรายละเอียดพร้อมไปกับมองภาพระยะไกลด้วย

Create a direct and binding link between resilience and growth
CEO ที่มีผลการดำเนินงานสูงมักจะคำนึงถึงระยะยาวเสมอ โดยสละผลกำไรระยะสั้นเพื่อรักษาผลกระทบระยะยาว

CEO ควรพิจารณาวิธีการใส่ตัวกระตุ้นความกดดัน (stressors) เข้าสู่ระบบ เช่น การกำหนดสถานการณ์สมมติ “what-if”
การวิเคราะห์แบบ premortem การจำลอง และอื่น ๆ เพื่อประเมินความพร้อมขององค์กรของพวกเขา

Premortem มาจาก pre- (ก่อน) + mortem (ความตาย) → แปลตรง ๆ ว่า “ก่อนตาย”
ต่างจาก postmortem ที่วิเคราะห์หาสาเหตุหลังจากโครงการล้มเหลวแล้ว


เช่น อีกสิบปีข้างหน้า Netflix ล้มเหลวแล้ว จงประเมินความน่าจะเป็นของสาเหตุต่าง ๆ”
หรือการจำลองสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อาจ ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
 
Build full-body resilience
       ไม่มีบริษัทใดที่จะมีความแข็งแกร่งเท่ากันในทุกมิติของความยืดหยุ่นทั้งสี่ (การเงิน การดำเนินงาน องค์กร และภายนอก) แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อบริษัทพัฒนาด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป และอีกด้านหนึ่งถูกละเลย

CEO ต้องมุ่งเน้นไปที่การสร้างความยืดหยุ่นทั้งร่างกาย ภายใต้วิธีการนี้ “กล้ามเนื้อความยืดหยุ่น” จะถูกพัฒนาอย่างสมดุลทั่วทั้งองค์กร และ CEO จะติดตามสภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง สังเกตว่าเมื่อใดที่กล้ามเนื้อถูกใช้งานหนักเกินไป ถูกใช้งานมากเกินไป หรือกำลังฝ่อลีบลง ในกรณีเหล่านั้น CEO จะได้พัฒนากระบวนการที่แข็งแกร่งและ playbook การรับมือวิกฤตซึ่งสามารถปรับใช้ได้เพื่อรับมือกับความปั่นป่วนที่เกิดขึ้น แทนที่จะต้องพึ่งพาบุคคลเพียงไม่กี่คนให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหา (ต้องสร้างทุกด้านแบบสมดุล)
 
Force decisions with senior leaders when resilience is on the line
    จากงานวิจัยของ McKinsey พบว่า ความเด็ดขาดหรือการกล้าตัดสินใจ (decisiveness) มีความสำคัญต่อการเสริมสร้างสุขภาพขององค์กร บริษัทที่มีผู้นำที่เด็ดขาดมีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพดีกว่าบริษัทคู่แข่งถึง 4.2 เท่า CEO ต้องสร้างสมดุลระหว่างการถกเถียงเชิงสร้างสรรค์กับการดำเนินการที่เด็ดขาด ซึ่งทั้งสองอย่างเป็นสิ่งสำคัญต่อการบรรลุความยืดหยุ่น
โดยในด้านหนึ่งต้องกดดันให้ถกเถึยงและตัดสินใจหรือบ้างครั้งจำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซง
 
Cultivate a gritty team and invest in individual resilience
   CEO ต้องทำงานร่วมกับทีมสรรหาบุคลากรและผู้นำฝ่ายต่าง ๆ เพื่อระบุลักษณะความยืดหยุ่นที่องค์กรจำเป็นต้องมีเพื่อประสบความสำเร็จในช่วงเวลาของความปั่นป่วน เช่น ความมุ่งมั่น ความคล่องตัว และความทรหด (grit) CEO ต้องแน่ใจว่าลักษณะเหล่านี้ถูกฝังอยู่ในการสนทนาทั้งหมดตลอดวงจรการบริหารจัดการบุคลากร ตั้งแต่การดึงดูด การรักษา ไปจนถึงการพัฒนาภาวะผู้นำ โดย CEO มีบทบาทสำคัญในการแสดงพฤติกรรมที่เป็นตัวอย่าง
 
Create deeper relationships with a diverse set of external stakeholders
   ในศตวรรษที่ 21 ในฐานะเสียงและภาพลักษณ์หลักขององค์กร CEO ถูกคาดหวังมากขึ้นเรื่อย ๆ การทำงานร่วมกันในการตัดสินใจครั้งสำคัญและการรักษาการสื่อสารที่ชัดเจนกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นสิ่งสำคัญต่อการสร้างความไว้วางใจอย่างยั่งยืน
โดยช่วยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกสามารถแยกแยะได้ระหว่าง
 
ความผิดพลาดในการตัดสินใจ (Errors of judgment) หรือ ข้อผิดพลาดชั่วคราวที่ไม่สอดคล้องกับค่านิยมขององค์กร
และความผิดพลาดในหลักการ (Errors of principle) ซึ่งสะท้อนถึงข้อบกพร่องเชิงระบบ
 
My Opinion
บทความนี้ค่อนข้างมีความชัดเจนในการสร้าง Resilience โดยเน้นที่บทบาทของ CEO ถึงแม้บทความนี้จะไม่ยาวมาก แต่มีความชัดเจนดีและสามารถนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติได้ ผมเลยให้ 4 ดาวครับ
 
  
 
Reviewed by รศ. ดร. วุฒิ สุขเจริญ Contact Me:  bestofsiam@hotmail.com