 |
Title: Purple Cow |
Author:
Seth Codin |
My Rating:
 |
|
|
|
Summary |
Purple Cow
เป็นหนังสือที่ให้แนวคิดเกี่ยวกับการสินค้า/บริการให้โดดเด่น
ที่ผู้เขียนใช้คำว่า "Remarkable"
เปิดฉากมากด้วย "Note Enough Ps" คือ Marketing Mix
หรือส่วนประสมการตลาด
ที่เดิมมีแค่ 4Ps (Product Price Place Promotion) หลัง ๆ
ก็มีคนพยายามเพิ่มเป็น 5Ps, 6Ps, 7Ps, 8Ps (ก็เอาที่สบายใจ)
ในหนังสือยกมาเป็น 8Ps (Product Pricing Promotion Positioning
Plublicity Packaging Pass-along Permission)
ผู้เขียนบอกว่ามันไม่พอ มันต้องมี P เพิ่มอีก 1P คือ "Purple
Cow"
ผู้เขียนเล่าว่าระหว่างทางขับรถไปในประเทศฝรั่งเศสเค้าได้เห็นวัวไปตลอดทาง
พอเวลาผ่านไปพอเห็นวัวเพิ่มมาอีกตัว
เค้าก็จะรู้ว่าเป็นวัวที่น่าเบื่อ
ถึงแม้ว่าวัวตัวนั้นมันจะเป็นวัวที่สมบูรณ์แบบ น่าสนใจ
มันก็ยังคงน่าเบื่อ จึงเป็นที่มาของหนังสือเล่มนี้
คือการทำให้มันโดดเด่น ไม่เหมือนใคร (Remarkable) คือการสร้าง
Purple cow นั่นเอง
โดยเป็นการทำตลาดแบบโดดเด่น (Remarkable marketin is the art
of building things worth noticing right into your product or
service.)
หนังสือเล่มนี้ค่อนข้างจะมุ่งเน้นไปทางค่อนแคะการโฆษณาใน TV
ว่ามันอาจจะสร้างการรับรู้ได้
แต่อาจไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการสร้างยอกขาย เพราะมันซ้ำ ๆ กัน
เค้าจึงเปลี่ยนจากการคิดที่จะโฆษณาเป็นการสร้างนวัตกรรม (Stpo
advertising and start innovating)
ผู้เขียนระบุว่าผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงโดย มีทางเลือกมากขึ้น
(Available Choices) แต่กลับมีเวลาน้อยลง (Available Time)
ดังนั้นนักการตลาดจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติและวิธีการการทำงาน
ในปัจจุบันบริษัทมักคิดว่าการทำตามผู้นำตลาดจะมีความเสี่ยงน้อย
เนื่องจากผู้นำตลาดได้มีการทดลองจนประสบความสำเร็จมาแล้ว
อย่างไรก็ดีผู้นำก็ได้ครอบครองคุณสมบัติเหล่านั้นไปแล้ว
ทำให้ผู้ตามไม่สามารถสร้างความโดดเด่นได้
หนังสือเล่มนี้ผู้เขียนได้บัญญัติศัพท์ใหม่ "Ideavirus"
คือการสร้างแนวคิดที่โดนใจผู้บริโภคทำให้เกิดการบอกต่อหรือแพร่กระจายแนวคิดนั้นออกไป
เหมือนการติดไวรัส
|
|
My Opinion |
หนังสือเล่มนี้มีการนำเสนอเนื้อหาที่ไม่มีการแบ่งเป็นบท
ๆ แต่เป็นการนำเสนอเป็นตัวข้อย่อย ๆ 76 หัวข้อ
โดยใช้วิธีการนำเสนอแนวคิด และกรณีศึกษา
และนำเสนอบทสรุปหรือประเด็นสำคัญ
โดยผู้เขียนระบุว่าเจ้าการสร้าง "Purple Cow"
ก็ไม่ได้มีรูปแบบหรือขั้นตอนที่แน่นอน
ก็ขึ้นอยู่กับบริษัทหรือธุรกิจที่จะเริ่มลงมือทำ
ด้วยการนำเสนอแบบนี้ทำให้ผู้อ่านจับใจความยาก
และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นหรือมีขั้นตอนอย่างไร
ถึงแม้หนังสือเล่มนี้จะโฆษณาว่า "The Must-Read
Classic"
แต่ผมกลับไม่รู้สึกประทับใจหรือได้แนวคิดอะไรเพิ่มเติม
ผมก็เลยให้แค่ 2 ดาว |
|
|
|
|