มีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีการพูดเรื่องเครื่องมือบริหารจัดการที่เรียกว่า
OKRs (Objectives and Key Results)
เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทำงานของ Google จริงๆ แล้ว
Google ไม่ใช่บริษัทแรกที่นำ OKRs มาใช้ แต่ Andy Drove แห่ง
Intel คือบริษัทแรกที่นำ OKRs ใช้ในปี 1974
จึงได้ชื่อว่าบิดาแห่ง OKR
ซึ่งในตอนนั้นเป็นการดัดแปลงมาจากเครื่องมือการบริหารจัดการที่เรียกว่า
MBO (Manangement by Objective) เรียกกว่า iMBO (intel iMBOs)
โดยทำให้ MBO มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
|
|
 |
|
 |
|
เนื่องจาก OKRs
เป็นแนวคิดหรือเครื่องมือที่มีการพัฒนามากจาก MBO
ทำให้มีหนังสือที่เขียนเรื่อง OKRs ออกมาหลายเล่ม
เนื่องจากไม่มีใครที่เป็นเจ้าของเครื่องมือนี้อย่างแท้จริง
ดังนั้นการรีวิวหนังสือของผมในครั้งนี้ ก็จะแตกต่างจากทุก ๆ
ครั้ง คือเป็นอธิบายหลัการของ OKRs และนำหนังสือที่เขียนเรื่อง
OKRs 3 เล่ม มาให้คะแนน
ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องนี้ว่าควรอ่านหนังสือเล่มไหน |
|
สำหรับเนื้อหาด้านหลักการของ
OKRs ในหนังสือแต่ละเล่ม ไม่แตกต่างกันมาก การเล่าเรื่อง OKRs
ของผม จึงหยิบมาจากหนังสือทั้ง 3 เล่ม ในภาพรวมหลักการของ OKR
เป็นเครื่องมือที่ทำให้องค์กรสามารถนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติได้
(Execution) และทำให้องค์กรมีการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน
(Alignment) เป็นเครื่องมือที่มีการพัฒนามาจาก MBO
ที่ทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และสามารถติดตามผลได้เร็วขึ้น
และมุ่งเน้นการสื่อสารในหลายทิศทาง
ไม่ใช่จากบนลงล่างเพียงอย่างเดียว
แสดงความแตกต่างตามภาพด้านล่าง |
|
หลักการของ OKR ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
Objective (วัตถุประสงค์) คือ
สิ่งที่เราต้องการจะประสบความสำเร็จ เป็นเป้าหมายกว้าง ๆ
หนังสือบางเล่มระบุว่าเป็นเชิงคุณภาพ (Qualitative)
หรือพูดง่าย ๆ คือไม่ต้องมีตัวเลข โดยมีช่วงเวลากำกับ
ที่สำคัญคือควรสร้างแรงบันดาลใจที่อยากทำให้สำเร็จ
Key Results (ผลลัพธ์หลัก) คือ ผลลัพธ์ที่สามารถวัดได้
ที่ทำให้บรรลุตามวัตถุประสงค์นั้น โดยมีเวลากำกับ
โดยการทำ OKR จะมีการทำในทุกระดับชั้นขององค์กร
(แสดงดังภาพ) |
|
 |
|
การนำ OKRs
ไปใช้งานขึ้นอยู่กับความพร้อมขององค์กร
ดังนั้นการนำไปใช้จึงมีหลายระดับแล้วแต่ความพร้อมขององค์กร
เช่น ระดับบนหรือระดับบริษัท (Company and Business Unit or
Team) การใช้ทั้งองค์กร (Entire Organization)
การใช้เป็นแบบทดลองเฉพาะทีม (Pilot at a Business Unit or
Team) และการใช้เฉพาะบางโครงการ (Projects) |
ก่อนนำ OKRs ไปใช้
องค์กรควรถามตัวเองก่อนว่า
องค์กรมีปัญหาอะไรถึงจำเป็นต้องนำเอา OKRs มาใช้
และทำไมต้องเป็น OKRs ดังนั้นการนำ OKRs ไปใช้ไม่ใช่อยู่ ๆ
ก็เอาไปใช้เลย แต่ต้องมีการวางแผน โดย
◾ ผู้บริหารต้องพร้อมที่จะสนับสนุน OKRs (Secure executive
sponsorship for OKRs.)
◾ ต้องตั้งคำถามถึงความจำเป็นในการนำเอา OKRs มาใช้ (Answer
the question, “Why OKRs, and why now?”)
◾ จะเริ่มต้นนำมาใช้ในระดับใด (Determine where you’ll begin
with OKRs (corporate-level only, pilot, etc.)
◾ วางแผนในการนำเอามาใช้ เช่น การให้ความรู้ (Create an
implementation plan) |
|
ในการติดตามผลของการใช้ OKRs นิยมกำหนดให้แต่ละ Key Result
ต้องมีระยะเวลากำกับ
และมีการติดตามผลโดยการให้คะแนนความก้าวหน้า เช่น
0.7 to 1.0 = green (ทำสำเร็จ)
0.4 to 0.6 = yellow (มีความคืบหน้า แต่ยังไม่สำเร็๗)
0.0 to 0.3 = red (ไม่คืบหน้า) |
 |
|
นอกจากนั้นการใช้ OKRs
จะเป็นกิจกรรมที่ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
โดยมีกระบวนการที่เรียกว่า CFRs (Continuous Performance
Management) ซึ่งประกอบด้วย |
การพูดคุย (Conversations) ด้วยความจริงใจ
มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในทีมงานและระหว่างทีมงาน
การให้ข้อเสนอแนะ (Feedback)
เป็นสื่อสารการประเมินระหว่างผู้ร่วมงานเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้น
การยอมรับ (Recognition)
เป็นการแสดงออกถึงความเต็มใจยอมรับซึ่งกันและกัน |
|
เนื้อหาของ OKRs ในหนังสือทั้ง 3
เล่ม ก็มีคล้ายคลึงกัน อาจมีรายละเอียดแตกต่างกันบ้าง |
คราวนี้ก็มาถึงการประเมินหนังสือทั้ง 3 เล่ม ในความเห็นของผม
OKRs ไม่ได้เป็นอะไรที่ใหม่
ก็อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่แรกว่าเป็นการปรับปรุงมาจาก MBOs
คะแนนสูงสุดที่ผมให้ได้ก็คงเป็นแค่ 2 ดาว |
|
 |
Tiltle: Measure What
Matters |
Author: John Doerr |
My Rating:
 |
My Opinion |
การนำเสนอเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ก็เป็นการเล่าความเป็นมาของ
OKRs และการอธิบายความหมายและการนำไปใช้
วิธีการนำเสนอเนื้อหาใช้วิธีผ่านเรื่องเล่าในเหตุการณ์ต่าง
ๆ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจการใช้งานและความเป็นมา
อย่างไรก็ดีผมว่าการนำเสนอเนื้อหาในลักษณะนี้ไม่ค่อยกระชับ
ทำให้เสียเวลามาก และไม่ค่อยเป็นขั้นเป็นตอน
ผมจึงให้คะแนนอยู่ในระดับแค่ 1 ดาว
(เป็นความเห็นส่วนตัวครับ) |
|
|
 |
Tiltle: Objectives and
Key Results |
Authors: Paul R. Niven
and Ben Lamorte |
My Rating:
 |
My Opinion |
เนื้อหาก็เป็นการปูพื้นฐานความเป็นมาและหลักการของ
OKRs แต่ข้อดีของหนังสือเล่มนี้คือ
การนำเสนอเป็นขั้นเป็นตอน ไม่เยิ่นเย้อ
ในบรรดาหนังสือทั้่ง 3 เล่ม หากจะเลือกอ่านเล่มเดียว
ผมคงแนะนำเป็นเล่มนี้ |
|
|
 |
Tiltle: OKR From
Mission to Metrics |
Author: Francisco S. H.
Mello |
My Rating:
 |
My Opinion |
หนังสือเล่มนี้มีลักษณะการนำเสนอเนื้อหาที่ไม่แตกต่างจาก
2 เล่มบน แต่มีการอธิบายคำศัพท์ที่ละเอียดกว่า
(ซึ่งไม่จำเป็น)
การนำเสนออยู่ระหว่างกลางของเล่มแรกและเล่มที่ 2
ดังนั้นถ้าจะอ่านเพิ่มเติมเป็นเล่มที่ 2
ผมแนะนำเป็นเล่มนี้ครับ |
|